เจาะหุ้นกลุ่มเจ้าสัวเจริญ กำไรไตรมาสแรก 200% โบรกฯ ชี้ BJC-AWC โตต่อเนื่อง

10 บริษัทในเครือนายเจริญ สิริวัฒนภักดี หรือ “เจ้าสัวเจริญ” ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาสแรก ระหว่างเดือน ม.ค.-มี.ค. 2565 หุ้นในกลุ่มของเจ้าสัวเจริญ ผลการดำเนินงานออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจค้าปลีกที่ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดเมื่อปีก่อน เริ่มกลับมาเป็นบวก ด้วยแรงหนุนจากการเปิดประเทศและมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของภาครัฐ รวมถึงมาตรการคลายล็อกดาวน์

            เมื่อรวมความสามารถในการทำกำไรสุทธิทั้งหมด 10 บริษัทในกลุ่มธุรกิจ “เจ้าสัวเจริญ” ซึ่งได้แก่ บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC) ,บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) ,บมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) (FPT) ,บมจ.โออิชิ กรุ๊ป (OISHI) ,บมจ.เสริมสุข (SSC) ,บมจ.ยูนิเวนเจอร์ (UV), บมจ.อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง (AMARIN) ,บมจ.อาหารสยาม (SFP) ,บมจ. เครือไทย โฮลดิ้งส์ (TGH) และ บมจ.อินทรประกันภัย (INSURE) พบว่ามีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 4,812.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 201.93% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิรวม 1,593.77 ล้านบาท

            นักวิเคราะห์ในตลาดหลักทรัพย์ยก BJC และ AWC เป็นหุ้นที่โดดเด่นของเจ้าสัวเจริญ ซึ่ง BJC ฟื้นตัวตามเทรนด์ธุรกิจค้าปลีกที่ฟื้นตัว  อีกทั้งผู้บริโภคมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นหลังรัฐมีมาตรการคลายล็อกดาวน์ ดังนั้น SSSG ก็จะเติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 2 และไตรมาส 3 ปี 65 ขณะที่ ธุรกิจอสังหาริมทรัยพ์ AWC ได้อานิสงส์จากการเปิดประเทศของรัฐ ทำให้กลุ่มนักท่องเที่ยวเริ่มเข้ามามากขึ้น อัตราการเข้าพักของโรงแรมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนธุรกิจให้เช่าอาคารสำนักงาน พบว่ามีผู้เช่ารายใหม่ทำสัญญาการเช่าพื้นที่สำนักงานมากขึ้น และจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการร้านค้าปลีกเพิ่มขึ้น รวมถึงรายได้หนุนจากธุรกิจด้านห้องจัดงานสัมมนา EVENT ของศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่จะใช้จัดประชุม APEC จะนำมาสู่การท่องเที่ยวในรูปแบบ MICE ต่อไป

            อีกหนึ่งธุรกิจที่ถือเป็นรายได้หลักและสร้างกำไรให้กับเจ้าสัวเจริญอย่างมหาศาล อย่างบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด หรือเครื่องดื่มตราช้าง ที่จดทะเบียนอยู่ที่ตลาดหุ้นสิงคโปร์ โดยผลประกอบการของบริษัทไตรมาส 2 (ม.ค.-มี.ค.65) มียอดขายรวมมูลค่า 65,826 ล้านบาท เติบโต 10.7% สร้างกำไรสุทธิ 7,332 ล้านบาท  ส่งผลต่อ “กำไรสุทธิ” มูลค่า 18,365 ล้านบาท เติบโต 14.2%

            จากผลประกอบการธุรกิจในตลาดหุ้นไทยในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจของ เจ้าสัวเจริญค่อนข้างที่จะได้กำไร มีการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มสุราที่มียอดขายเติบโตมีตลาดสำคัญคือเมียนมา รวมถึงการเติบโตของโซดาช้างในประเทศจีน